สุขภาพดีแบบคนญี่ปุ่น เคล็ดลับของการทำให้มีอายุยืนยาว

รู้หรือไม่? ประชากรชาวญี่ปุ่นเฉลี่ยคือประเทศติดอันดับ 1- 5 ของโลกที่มีอายุยืนยาวที่สุด ผลการประเมินและจัดอันดับจาก IHME (Institute for Health Metrics and Evaluation) ระบุชัดเจนว่าจนถึงปี 2040 ชาวญี่ปุ่นจะมีอายุเฉลี่ยก่อนเสียชีวิตที่ประมาณ 85.7 ปี ถือว่ามีอายุเยอะมากจริง ๆ ส่วนหนึ่งบางคนอาจมองว่าเพราะพวกเขาใส่ใจกับเรื่อ งอาหารคลีน การมีวัตถุดิบบำรุงสุขภาพดี ๆ อาทิ สาหร่ายญี่ปุ่น ถึงกระนั้นเบื้องลึกของชาวญี่ปุ่นก็มี ความเครียดสะสม อยู่ไม่น้อยเช่นกัน ลองมาหาคำตอบของการดูแลให้เรามี สุขภาพดีแบบคนญี่ปุ่น และว่าทำไมพลเมืองประเทศนี้จึงมีอายุยืน

อาหารคลีน อาหารเพื่อสุขภาพ การคัดสรรวัตถุดิบอย่างดี

ใครที่อยากมีสุขภาพดีต้องเริ่มต้นจากการเลือกอาหารที่ทาน คำนี้ไม่ใช่เรื่องเกินจริง เพราะยิ่งวัตถุดิบมีความสด มีคุณค่าทางอาหารสูง นั่นหมายถึงร่างกายคุณก็ดีตามด้วยเช่นกัน ลองสังเกตอาหารของชาวญี่ปุ่นที่ทานกันจะพยายามลดขั้นตอนการปรุงให้มากที่สุด เน้นรสชาติของวัตถุดิบแท้ ๆ มีผัก ผลไม้ อยู่ในมื้ออาหาร ซึ่งวัตถุดิบที่พบเห็นได้บ่อยและมีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ปลาดิบ (แซลมอน, ฮามาจิ, ทูน่า ฯลฯ), ซุปปลา ซุปผัก สาหร่ายญี่ปุ่น และเต้าหู้

ส่วนอาหารจำพวกเนื้อแดงคนญี่ปุ่นจะไม่ค่อยนิยมทานมากนักเนื่องจากมีปริมาณคอเลสเตอรอลสูงกว่าเนื้อปลา นำมาซึ่งโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด, โรคหัวใจ รวมถึงอีกความลับที่หลายคนไม่รู้นอกจาก อาหารคลีน ลดการปรุงให้น้อยแล้ว “นม” ยังเป็นอีกเครื่องดื่มที่คนญี่ปุ่นไม่นิยมดื่มกันมากนัก เหตุเพราะนมมีไขมันอิ่มตัวสูงนำมาซึ่งโรคเบาหวานและไขมันในเส้นเลือดด้วยเช่นกัน คนญี่ปุ่นจึงนิยมหันไปดื่มชาและกาแฟดำมากกว่า ยิ่งถ้าเป็นชาเขียวจะมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยบำรุงสุขภาพและผิวพรรณ

วัฒนธรรมการทานแบบ Hara Hachi Bu

ชาวโอกินาว่าทางตอนใต้ของญี่ปุ่นจะมีวัฒนธรรมอย่างหนึ่งที่เรียกว่า Hara Hachi Bu หรือการทานแบบพออิ่ม ไม่จุกแน่นจนเกินไป รวมถึงเน้นทานอาหารคลีน อาหารเพื่อสุขภาพเป็นหลัก คำว่าทานแค่พออิ่มคือ จะทานให้รู้สึกว่าตนเองอิ่มประมาณ 80% ของปริมาณกระเพาะอาหารที่สามารถรับไหว จริงแล้วปรัชญานี้ถูกถ่ายทอดตามแบบฉบับของขงจื๊อที่ไม่อยากให้ทุกคนทานจนอิ่มแน่นมากเกินไป พร้อมทั้งยังควบคุมปริมาณแคลอรีที่ร่างกายควรได้รับต่อวันกับน้ำหนักตัวและสุขภาพของแต่ละคน

การเดินเป็นอีกความแข็งแรงของชาวญี่ปุ่น

นอกจากเรื่องของอาหาร การมีวัตถุดิบดี ๆ เช่น สาหร่ายญี่ปุ่น, แซลมอน, เต้าหู้, ชาเขียวแล้ว ชาวญี่ปุ่นยังมีนิสัยรักการเดินหรือการปั่นจักรยานมากกว่าใช้ยานพาหนะทุ่นแรงไม่ว่าจะมอเตอร์ไซค์หรือรถยนต์ ปัจจัยหนึ่งมาจากการที่ใครจะมีรถยนต์สักคันของประเทศนี้ต้องมั่นใจว่ามีพื้นที่การจอดรถเป็นสัดส่วน ไม่กีดขวางการจราจร ประกอบกับระบบขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟครอบคลุมทุกพื้นที่ เมื่อลงจากสถานีแล้วเดินต่ออีกนิดก็ถึงปลายทาง ซึ่งการเดินนี่เองเป็นอีกเทคนิคออกกำลังกายสำคัญที่ชาวญี่ปุ่นทำกันตลอด เมื่อบวกกับสภาพอากาศในช่วงฤดูหนาวแล้วจึงไม่ใช่เรื่องยากที่พวกเขาจะใช้วิธีนี้เพื่อคลายหนาวให้กับตนเอง

หลักการ Ikigai เหตุผลของการมีชีวิต

จริงอยู่ที่ส่วนคนญี่ปุ่นมีนิสัยเร่งรีบ มีความรับผิดชอบต่อการทำงานสูง จนบ่อยครั้งนำมาซึ่ง ความเครียดสะสม แต่ก็มีหลักการหนึ่งที่เรียกว่า Ikigai หรือ เหตุผลของการมีชีวิตอยู่ที่ชาวญี่ปุ่นยึดถือเช่นกัน หลักการดังกล่าวจะบอกกับตนเองในทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมาว่า เรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร เพียงแค่ตื่นแล้วเจอกับแสงแดดอุ่น ๆ, กาแฟร้อน ๆ, ได้อยู่กับครอบครัว หรือมีสัตว์เลี้ยงแสนรักอยู่เคียงข้าง นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาใส่ใจกับการดูแลสุขภาพของตนเองมากขึ้น

ไม่ใช่แค่ชาวญี่ปุ่นแต่หลักการ Ikigai กำลังถูกหลายประเทศทั่วโลกนำไปใช้ เมื่อมองอีกมุมหนึ่งศาสตร์นี้ก็เหมือนกับการอุทิศชีวิตเพื่อนำในสิ่งที่ตนเองปรารถนา แม้จะมีความเครียดสะสม อยู่บ้างแต่เมื่อถึงเป้าหมายที่วางเอาไว้มันย่อมทำให้เกิดความสุขทางใจได้เช่นกัน

คนญี่ปุ่นรักความสะอาดมาก

เคล็ดลับสุดท้ายที่ทำให้ชาวอาทิตย์อุทัยมีอายุยืนยาวเพราะพวกเขาเป็นคนรักสะอาดมาก สังเกตได้จากสินค้าที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันจะเน้นเรื่องความสะอาดเป็นหลัก อาทิ ทิชชูเปียก, น้ำยากำจัดเชื้อแบคทีเรียสำหรับใช้ในรูปแบบต่าง ๆ (ผงซักฟอก, น้ำยาถูพื้น, สเปรย์กำจัดกลิ่นและแบคทีเรีย) เป็นต้น เมื่อบวกกับอุปนิสัยที่เป็นคนรักสะอาดโดยพื้นฐาน พร้อมวิธีจัดการของภาครัฐด้วยการบังคับเรื่องการคัดแยกขยะ เมื่อทุกพื้นที่เกิดความสะอาด เชื้อโรคก็เข้าสู่ร่างกายได้ยาก นำมาซึ่งสุขภาพที่ดีของชีวิต อายุยืนยาว แข็งแรง มีความสุขทั้งกายและใจ

สำหรับคนไทยที่อยากมีสุขภาพดี อายุยืนยาวแบบคนญี่ปุ่น จุดเริ่มต้นอันแสนง่ายดายที่สุดต้องมาจากการดูแลตนเองให้ดีมากพอ เช่น เปลี่ยนจากอาหารฟาสต์ฟู๊ดมาเป็นอาหารคลีนบ้างในบางมื้อ, พยายามตั้งเป้าหมายของตนเองให้ชัดเจนเพื่อความสำเร็จในชีวิต, ลดความเครียดสะสมด้วยการหากิจกรรมที่ชอบทำ, เลือกวัตถุดิบคุณภาพดีในการปรุงอาหาร ลดการใช้เครื่องปรุงให้น้อยที่สุด เป็นต้น แม้ไม่มีใครบอกได้ว่าอายุของคนเราจะยาวนานเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยก็ทำให้ชีวิตมีความสุขได้แบบง่าย ๆ

Scroll to Top